ร้องศธ.ทบทวนนโยบายเรียนฟรี-เสนอปรับราคาชุดนักเรียน
วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 นางวันรวีร์ พูลส์ศิริกุล ตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตชุดนักเรียนมาตรฐานและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.)ในฐานะประธานสภาแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเสรีนครพนม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ตนและตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตชุดนักเรียนมาตรฐานและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อขอให้มีการทบทวนโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ในรายการค่าเครื่องแบบนักเรียนที่ระบุว่า แนวทางการจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียน/ชุดนักเรียน รัฐจะจัดสรรเงินสดให้ผู้ปกครองและนักเรียนจะดำเนินการจัดซื้อด้วยตนเอง
แต่ความจริงแล้วผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่ได้นำเงินที่ได้ไปซื้อชุดนักเรียน อีกทั้งนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลผู้ปกครองก็ไม่รู้จะไปหาซื้อชุดนักเรียนให้กับลูกหลานได้ที่ไหน และหากจำเป็นจะต้องซื้อชุดนักเรียนผู้ปกครองก็จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าเมืองมาซื้อชุดให้เด็กอีกจึงทำให้เกิดปรากฎการณ์ผู้ขายไม่มีที่ขายและผู้ซื้อไม่มีที่ซื้อ และเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ผู้ปกครอง
ขณะเดียวกันนโยบายดังกล่าวก็ยังส่งผลให้ผู้ประกอบการชุดนักเรียนที่มีอยู่ 45 รายทั่วประเทศขาดรายได้และมียอดขายตกลงจำนวนมากและเท่าที่ทราบขณะนี้มีผู้ประกอบการชุดนักเรียนต้องปิดกิจการไปแล้ว11 ราย ดังนั้นพวกตนจึงอยากให้ ศธ.ได้มีการทบทวนเรื่องนี้โดยให้ใช้วิธีการโอนเงินไปให้โรงเรียนดำเนินการจัดซื้อชุดนักเรียนแทนให้เงินสดผู้ปกครองไปซื้อเอง
“ที่ผ่านมาพวกผมร้องเรียนเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยมีความคืบหน้าเกิดขึ้น ดังนั้นพวกเราจะให้เวลา ศธ.อีกสองอาทิตย์หากยังไม่มีคำสั่งดำเนินการเรื่องให้พวกเราก็จะกลับมาทวงถามอีกครั้ง เพราะแต่เดิม สพฐ.มอบให้โรงเรียนเป็นผู้จัดซื้อจัดจ้างชุดนักเรียนให้แก่ผู้เรียน แต่เมื่อปี 2552 มีนโยบายเรียนฟรีเกิดขึ้น โดยแจกเงินให้ผู้ปกครองไปซื้อชุดเอง แต่ในทางปฎิบัติผู้ปกครองบางรายก็ไม่ได้นำเงินไปซื้อจริง เท่ากับว่าเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ของงบประมาณ และโยนภาระให้กับผู้ปกครอง ” นางวันรวีร์ กล่าวและว่านอกจากนี้พวกตนยังเสนอขอให้มีการปรับราคาชุดนักเรียนใหม่ด้วยดังนี้ ชุดนักเรียนระดับอนุบาลจากเดิม ราคา 150 บาท ปรับเป็น 250 บาท ระดับประถมศึกษา ราคา 180 บาท เป็น 250 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ราคา 225 บาท เป็น 350 บาท และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ราคา 250 บาท เป็น 400 บาท
ที่มา>>>http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1417072021
